
วันตรุษจีน ไม่เพียงเป็นช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองและการรวมตัวของครอบครัว แต่ยังเป็นโอกาสที่สำคัญในการรับประทานอาหารที่มีความหมายมงคล เพื่อเสริมความโชคดี ความมั่งคั่ง และความเจริญรุ่งเรืองในปีใหม่ อาหารและขนมที่นิยมในเทศกาลตรุษจีนมีดังนี้
1. อาหารมงคล
ปลา
- ปลาเป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์และความมั่งคั่ง เนื่องจากคำว่า “ปลา” ในภาษาจีนออกเสียงคล้ายคำว่า “เหลือเฟือ”
- ปลาที่นิยมมักจะนึ่งทั้งตัวเพื่อแสดงถึงความสมบูรณ์ในทุกด้าน
เกี๊ยว
- เกี๊ยวมีลักษณะคล้ายกับเงินโบราณของจีน (หยวนเป่า) ทำให้เป็นสัญลักษณ์ของความมั่งคั่ง
- การทำเกี๊ยวร่วมกันในครอบครัวยังแสดงถึงความสามัคคี
บะหมี่
- บะหมี่ที่มีเส้นยาวเป็นตัวแทนของอายุยืนและสุขภาพที่ดี
- การรับประทานบะหมี่จะต้องระวังไม่ให้เส้นขาด เพื่อไม่ให้โชคลาภถูกตัด
เป็ดและไก่
- เป็ดและไก่ที่เสิร์ฟทั้งตัวแสดงถึงความเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์
- ไก่ยังเป็นสัญลักษณ์ของความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน
ข้าวเหนียว
- เหนียนเกา หรือขนมเข่ง หมายถึงความเจริญก้าวหน้าในทุกด้าน
ส้มและส้มจีน
- ส้มเป็นผลไม้ที่นิยมอย่างมาก เพราะสีส้มสดใสเหมือนทองคำ และคำว่า “ส้ม” ในภาษาจีนพ้องเสียงกับคำว่า “โชคลาภ”
- ส้มจีนมักมอบให้แก่กันเพื่ออวยพรให้ร่ำรวยและมีความสุข
ลูกชิ้นปลาและลูกชิ้นเนื้อ
- มีความหมายถึงความกลมเกลียวและความสมบูรณ์
2. ขนมมงคล
- ขนมเทียน : ขนมเทียนมีรูปร่างสามเหลี่ยม ซึ่งสื่อถึงความโชคดีและการปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย
- ขนมถ้วยฟู : ขนมถ้วยฟูมีความหมายถึงความรุ่งเรืองเฟื่องฟูในชีวิต
- ขนมงา (ซาไถ) : ขนมงาเป็นขนมกรอบที่แสดงถึงความหวานชื่นและความมั่นคงในครอบครัว
- ผลไม้มงคล : นอกจากส้มแล้วยังมีผลไม้มงคลอื่น ๆ เช่น ทับทิม (ความสามัคคี), แอปเปิล (ความสงบสุข) และองุ่น (ความมั่งคั่ง)
- ขนมเปี๊ยะ : ขนมเปี๊ยะมักใช้ในพิธีไหว้เทพเจ้าและบรรพบุรุษ มีความหมายถึงการรวมตัวและความสุขในครอบครัว
3. ขนมที่เป็นตัวแทนของความหวานในชีวิต
ขนมหวานในวันตรุษจีนไม่เพียงแต่เพิ่มความสดชื่น แต่ยังหมายถึงชีวิตที่หวานชื่นในปีใหม่
- ลูกอมหวาน : มักบรรจุในกล่องกลม หรือที่เรียกว่า “กล่องแห่งความโชคดี” เพื่อแบ่งปันความสุขให้ครอบครัว
- ถั่วเคลือบน้ำตาล : หมายถึงการเติมพลังและความเจริญรุ่งเรือง
4. เครื่องดื่มมงคล
- ชา : การดื่มชาในวันตรุษจีนเป็นสัญลักษณ์ของความสงบสุขและการแสดงความเคารพในพิธีการไหว้บรรพบุรุษ
- ไวน์ข้าวจีน : ในบางพื้นที่ นิยมดื่มไวน์ข้าวเพื่อเฉลิมฉลองความสำเร็จและความสุขในปีใหม่
5. ความเชื่อในการจัดวางอาหาร
- การจัดอาหารในวันตรุษจีนต้องเน้นความสมดุล เช่น การเสิร์ฟปลาทั้งตัว หมายถึงความครบถ้วนสมบูรณ์ตั้งแต่ต้นจนจบ การหั่นปลาหรืออาหารประเภทเนื้อสัตว์ในวันตรุษจีนถือเป็นข้อห้าม เพราะเชื่อว่าจะทำให้ความโชคดีขาดหายไป
- อาหารบางชนิดต้องเสิร์ฟเป็นคู่ เช่น ไก่กับเป็ด หรือขนมหวานกับผลไม้ เพื่อสื่อถึงความสมดุลในชีวิต
6. ความสำคัญของสีในอาหาร
สีแดง : แสดงถึงความโชคดี เช่น อั่งเปาและขนมที่มีสีแดง
สีทอง : แสดงถึงความมั่งคั่ง เช่น ทองหยิบ ขนมที่มีลักษณะกลม ๆ หรือสีเหลือง
สีขาว : แสดงถึงความบริสุทธิ์และความสงบสุข แต่บางพื้นที่เชื่อว่าสีขาวเป็นลางไม่ดี ทำให้ไม่ค่อยใช้ในอาหารมงคล
7. ข้อปฏิบัติและข้อห้ามเกี่ยวกับอาหารในวันตรุษจีน
- หลีกเลี่ยงการรับประทานเนื้อสัตว์ในวันแรกของตรุษจีน : ชาวจีนบางคนเลือกกินเจในวันแรกของปีใหม่ เพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยความบริสุทธิ์ และเพื่อความเป็นสิริมงคล
- ไม่เสิร์ฟอาหารรสขม : อาหารที่มีรสขม เช่น ผักบางชนิด ถือว่าไม่เหมาะสมในวันมงคล เพราะอาจสื่อถึงความทุกข์ยากในปีใหม่
- การกินอาหารจนหมดจาน : การกินอาหารให้หมดจานในบางพื้นที่ถือเป็นลางดี สื่อถึงการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและการไม่ทิ้งโชคลาภ
อาหารและขนมมงคลในวันตรุษจีนไม่เพียงแต่มีรสชาติอร่อย แต่ยังเปี่ยมด้วยความหมายดีๆ ซึ่งเชื่อกันว่าจะนำพาความโชคดีและความเจริญรุ่งเรืองมาสู่ผู้ที่รับประทานและครอบครัว ถือเป็นการเริ่มต้นปีใหม่ที่เต็มไปด้วยความสุขและความสมบูรณ์พูนสุขในทุกด้าน
สุขสันต์วันตรุษจีน S.K. resort ที่พักแนะนำรามอินทรา ขออวยพรให้ทุกท่านเฮงๆ รวยๆ มีแต่โชคลาภและความสุข ตรุษจีนนี้ขอให้ทุกท่านสุขภาพดีและมีความเจริญรุ่งเรือง
